วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การทักทายของแต่ละประเทศ

เมื่อเราพบผู้อื่น มารยาทพื้นฐานที่ต้องแสดงคือการทักทาย การทักทายของชนชาติต่างๆล้วนมีจุดประสงค์เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน และเพราะวัฒนธรรมในแต่ละประเทศแตกต่างกัน วิธีทักทายจึงแตกต่างด้วย ดังนั้นหากไม่เข้าใจวิธีทักทายของกัน ก็อาจทำให้เข้าใจผิดได้ เริ่มจาก 












อิตาลี กอดพร้อมตบหลังอีกฝ่ายเบาๆ

เซเนกัล ชนเผ่าโวลอฟ ค้อมตัวลงแล้วนำหลังมือของผู้อาวุโสมาแตะหน้าผากตัวเอง

แทนซาเนีย ห้ามมองหน้าอีกฝ่ายและต้องคุกเข่าลงพร้อมตบมือขณะทักทายผู้อาวุโส

เคนยา บ้วนน้ำลายตัวเองบนฝ่ามือของอีกฝ่าย เพื่ออวยพรให้โชคดี

อินเดีย พนมมือและโค้งตัวเล็กน้อยเวลาทักทายผู้อาวุโสหรือแขก

นิวซีแลนด์ ชนเผ่าเมารี เอาจมูกแตะกันและครึงเล็กน้อย











ทิเบต ดึงหูทั้งสองข้างของตัวเองไว้พร้อมแลบลิ้น

อาร์เจนตินา หอมแก้มกันและทำเสียง"จุ๊บ"เวลาทักทาย

บราซิล ชนพื้อเมืองในบราซิลจะใช้ใบหน้าและส่วนอกสัมผัสกันพร้อมหอมแก้ม

สหรัฐอเมริกา หอมแก้มกันเมื่อทักทายเพื่อนหรือคนในครอบครัว











อะแลสกา ชนเผ่าเอศกิโมเอาจมูกแตะกันและคลึงเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพและการต้อนรับ

เกาหลี ผู้อ่อนวัยจะคุกเข่าและก้มศีรษะคำนับผู้อาวุโส

อินเดียเหนือ ชาวลาดัก ทักทายโดยยกมือขวาขึ้น

อิรัก   ทักทายหญิงสาวที่ใส่ผ้าคลุมหน้าโดยใช่ฝ่ามือทาบที่หน้าอกตัวเอง   สำหรับหญิงสาวที่ไม่ใส่ผ้าคลุมหน้าใช่การจับมือ

ไทย ยกมือทั้งสองประนมไว้ ปลายนิ้วทาบสนิทกัน ก้มศรีษะลง





 






วิธีทักทายที่นิยมใช้มากที่สุดก็คือการจับมือ 

ฝรั่งเศส จะพูดว่า "บงชูร์" แนบแก้มกับแก้มของอีกฝ่ายและทำเสียงจุ๊บ

อินเดียเหนือ จะพูดว่า "ชู-เลย" ชาวลาดักไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่จะยกมือขวาขึ้นสูง

อินเดีย จะพูดว่า"นะมัสเต" พนมมือสองข้างและโค้งตัวเล็กน้อย

ชนเผ่าฮาวาย จะพูดว่า "อะโลฮา" ชูนิ้วหัวแม่มือและนิ้วก้อยส่ายไปมาในการทักทายเพื่อน

สหรัฐอเมริกา จะพูดว่า"ไฮ" ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ล้วนใช่การจับมือ

ชนเผ่าเอสกิโม จะพูดว่า"อัลละคุต" เอาจมูกแตะกันและคลึงเล็กน้อย

จีน จะพูดว่า"หนีห่าวมา" จับมือพร้อมส่งเสียงทักทาย







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น